เจาะลึกก่อนมาไทย - กระบะ Maxus T60 ที่อาจแปะโลโก้ MG ขายในไทยปีหน้า!!!

ตลาดกระบะจัดว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างเติบโตในไทย แบรนด์น้องใหม่อย่าง MG ที่อยู่ในตลาดไทยมาไม่กี่ปีนั้นก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สนใจทำตลาดกระบะในไทย ตามข่าวจากสื่อหลายๆเจ้าบอกว่ากระบะ MG มาไทยแน่ๆในปี 2018 โดยอาจจะนำกระบะ Maxus T60 มาแปะโลโก้ MG วางขายในไทยนั่นเอง ทาง We Love MG จะมาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับกระบะ Maxus T60 กันครับ
 
   ขนาดของตัวรถนั้นมีความยาว 5,365 มม. กว้าง 1,900 มม. และสูง 1,809 มม. ทางด้านรุ่นดับเบิลแค็บที่มีความยาวตัวถังพิเศษจะมีความยาวเพิ่มขึ้น 315 มม. เป็น 5,680 มม. และโมเดล Low Chassis จะมีความสูง 1,722 มม.สำหรับตลาดจีนนั้นกระบะ Maxus T60 จะมีให้เลือกทั้ง 4 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ ตอนเดียว ตอนครึ่ง(แค็บ 2 ประตู) ดับเบิลแค็บ (4 ประตู) และ ดับเบิลแค็บที่มีความยาวกระบะท้ายเพิ่มเป็นพิเศษนั่นเอง


   ดีไซน์ภายนอกสะดุดตาด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่และไฟหน้าแบบ LED สามารถปรับมุมตามการเลี้ยวของรถได้ มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติมาให้และไฟ LED Daytime Running Lights ตามยุคสมัย กันชนหน้าออกแบบดูทันใช้ได้ทีเดียว เส้นสายด้านข้างนั้นมีความคล้ายกับกระบะ Nissan Navara พอสมควร ซุ้มล้อด้านข้างออกแบบให้เป็นทรงเหลี่ยมเพิ่มความแข็งแกร่ง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบโครเมียมสามารถปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า และยังติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศาบริเวณกระจกมองข้างมาให้ด้วย ส่วนล้ออัลลอยของรถจะมากับขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Dunlop ขนาด 245/65 R17

      สำหรับด้านท้ายมากับดีไซน์ออกแบบให้มีมิติและแข็งแกร่งเหมือนกระบะอเมริกัน เพิ่มความเท่ด้วยการปั๊มอักษรด้านท้ายเป็นชื่อยี่ห้อ Maxus และกันชนท้ายสีเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งราวหลังคาและโรลบาร์ด้านหลังเพิ่มความเท่เข้าไปอีก

   ภายในห้องโดยสารนั้นมีดีไซน์ค่อนข้างหรูหราทันสมัยพอๆกับกระบะค่ายญี่ปุ่นและอเมริกัน อาจจะดีกว่าในหลายๆจุดด้วยซ้ำ คอนโซลกลางเสริมด้วยวัสดุสีเงินเพิ่มความหรูหรา มากับพวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชันึ่งควบคุมเครื่องเสียงและมี Cruise Control แผงหน้าปัดของรถจะมาแนววงกลม 2 วงและมีหน้าจอ MID แสดงผลข้อมูลการขับขี่ไว้ตรงกลางเหมือนกระบะหลายๆรุ่น ตกแต่งด้วยโทนสีแดง-ขาว ตรงกลางคอนโซลติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว ซึ่งมีทั้งระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบปฎิบัติการ YunOS

   รุ่น Double Cab นั้นเอาใจผู้โดยสารด้านหลังเป็นพิเศษด้วยการติดตั้งระบบปรับอากาศตอนหลัง และช่องต่อไฟ 220V และ 12V
 
  ขุมพลังนั้นจะใช้เครื่องยนต๋ดีเซล 2.8 ลิตร VGT ติดตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงจาก BOSCH มากับพละกำลัง 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ/6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์จาก BorgWarner และยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Normal/Eco/Power

 
     ระบบความปลอดภัย ทาง SAIC ก็จัดระบบความช่วยเหลือมาแบบไม่น้อยหน้าใคร ด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบเตือนไม่ให้ออกนอกเลน เป็นต้น

   ก็มาติดตามกันครับว่ากระบะ Maxus T60 (ที่อาจจะแปะตรา MG ขายในไทย) จะมาช่วงไหน ทาง We Love MG จะมาอัพเดตให้สาวก MG ได้รับทราบกันนะครับ
 
ที่มา www.autohome.com.cn / เนื้อหาจาก Cars New Update
 
 
ติดตามข่าวสารรถยนต์ MG ทุกรุ่นได้ทางเพจนี้ครับ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MGB รถสปอร์ต2ประตูสุดคลาสสิค

รูปภาพ
     MGB เป็นรถสปอร์ต 2 ประตูที่ผลิตและจำหน่ายโดย British Motor Corporation (BMC) ต่อมาเป็น British Leyland เป็นรถเปิดประทุนและได้ มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปีค.ศ.1962   และจำหน่ายถึงปีค.ศ. 1980           โครงสร้าง MGB เป็นนวัตกรรมการออกแบบที่ทันสมัยในปีค.ศ.1962 ใช้โครงสร้างแบบ monocoque แทนโครงสร้างแบบเดิม ๆ ที่ใช้ทั้ง MGA และ MG T-type   ส่วนประกอบเช่นเบรคและช่วงล่างเป็นพัฒนาการของ MGA เมื่อปีค.ศ.1955 ก่อนหน้านี้ด้วยเครื่องยนต์ B-Series ที่มีต้นกำเนิดในปีค.ศ.1947 การออกแบบที่มีน้ำหนักเบาช่วยลดต้นทุนการผลิตโดยเพิ่มความแข็งแรงของยานพาหนะ หน้าต่างแบบ Wind-up เป็นมาตรฐานและมีการออกแบบให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย       MGB ใช้เวลาประมาณ 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (96 กม. / ชม.) เพียง 11 วินาทีเท่านั้น จากขุมพลัง เครื่องยนต์ B-Series รุ่น 1798 ซีซี รีดแรงม้าได้สูงสุด 95 แรงม้า (71 กิโลวัตต์) ที่ 5,400 รอบต่อนาที ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกา ในปีค.ศ.1975 เครื่...
อ่านเพิ่มเติม

ชม MG5 Hatchback อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้มีจำหน่ายในไทย

รูปภาพ
  สำหรับเมืองไทยแล้ว ค่าย MG ก็จัดว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีรถ MG บางรุ่นที่ไม่ได้มาจำหน่ายในไทย ทาง We Love MG เลยจะพามาทำความรู้จักกับ MG5 Hatchback ที่มีจำหน่ายในจีนตอนนี้    ก่อนอื่นต้องบอกว่า MG5 Hatchback คันนี้จะจำหน่ายในประเทศจีนด้วยชื่อ "MG5" เฉยๆ ส่วน MG5 ตัวถังซีดานเหมือนที่มีจำหน่ายในเมืองไทยนั้น ที่ประเทศจีนจะวางขายในชื่อ "MG GT" ต่างจากประเทศไทยที่ไม่มีตัวถัง Hatchback จำหน่ายเลยใช้ชื่อตัวถังซีดานที่มีขายว่า MG5 เลย  ว่ากันง่ายๆ MG5 Hatchback และ MG5 Sedan (MG GT) ก็สร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกัน แต่ก็มีรายละเอียดหลายๆจุดที่แตกต่างกัน โดย MG5 ตัวถัง Hatchback ประเดิมเปิดตัวก่อนครั้งแรกในปี 2012 ส่วน MG5 ตัวถังซีดานที่เราได้ใช้กันในปัจจุบันเปิดตัวในตลาดจีนครั้งแรกเมื่อปี 2014 นั่นเอง ก่อนที่ไทยจะนำมาจำหน่ายช่วงปลายปี 2015    MG5 ตัวถัง Hatchback จะมีสัดส่วนความยาว 4,363 มิลลิเมตร (ซีดานยาว 4,612 มิลลิเมตร) ความกว้าง 1,800 มิลลิเมตร (ซีดานกว้าง 1,804 มิลลิเม...
อ่านเพิ่มเติม

ประวัติศาสตร์รถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ MG ตั้งแต่ปีค.ศ.1924-2009

รูปภาพ
ในปี 1924-1927 Old Number One       ซุปเปอร์สปอร์ตคันแรกของเอ็มจีที่รังสรรค์ขึ้น เพื่อการชิงชัยด้วยเครื่องยนต์ 1548 ซี.ซี. เกียร์ 3 สปีด โครงสร้างแชสซีของ Morris Cowley คว้ารางวัลชนะเลิศในการ แข่งขัน Lands End Trial เมื่อปี ค.ศ. 1925 รุ่นที่ 2 ของเอ็มจี ที่พัฒนาหม้อน้ำให้เป็นแบบ Bullnose 14/28 สปริงรูปวงรีผ่าครึ่ง พร้อมเสริมโครงสร้างให้แกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะและควบคุมได้ดีขึ้น เครื่องยนต์มีกำลังแรงถึง 35 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที ในปี 1927-1952       K3 Magnette                เป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้เอ็มจีได้รับการบันทึกลง ในการแข่งขัน Le Mans สามารถเอาชนะทีมเฟอร์รารี่ โดยทำความเร็วได้ถึง 105 กม./ชม. และยังคงตราตรึงในทุกสนามการแข่งขันรุ่นเครื่องยนต์เล็ก   TC       เป็นรุ่นแรกที่ออกจำหน่ายหลังสงครามโลก ส่...
อ่านเพิ่มเติม