ย้อนรำลึกอดีตค่าย MG กับสปอร์ตแดนผู้ดีในตำนาน MG F / MG TF

   สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน We Love MG ขอนำทุกท่านเข้ามาสู่ตำนานของสปอร์ตเปิดประทุนของ MG เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรถสปอร์ตรุ่นนี้จัดว่าเป็นหนึ่งใน MG ที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบมากพอสมควรเลย และรถที่เราจะมาพูดถึงกันก็คือ MG F และ MG TF และเราจะพาทุกท่านไปร่วมสนุกกับตำนานของสปอร์ตเปิดประทุนคันงามคันนี้ ใครที่พร้อมแล้วเชิญจับเมาส์เลื่อนหรือใช้มือเลื่อนสมาร์ทโฟนของท่านได้เลย ณ บัดนาว

   MG F และ MG TF จัดว่าเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนเครื่องวางกลางที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปี 2005 โดยผลิตภายใต้ชายคาของ MG อังกฤษ ก่อนจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของบริษัทจีนในนาม MG Motor และมีการผลิตต่อในปี 2007-2011
 
MG F ที่ถูกออกแบบครั้งแรกโดย Steve Harper
 
MG F ที่ออกแบบโดย Gerry McGovern 
 

   MG F ถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์นาม Steve Harper จาก MGA Developments ได้ออกแบบ Concept ในช่วงมกราคมปี 1991 (โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเสือจากัวร์ XJR-15 และ Ferrari 250LM) ก่อนที่ทีมออกแบบของ Rover จะใช้แนวการออกแบบภายใต้การนำของ Gerry McGovern (ปัจจุบันลุงแกไปอยู่ Land Rover) สิ่งที่น่าสนใจ MG F คือระบบกันสะเทือนแบบ Hydragas ที่ช่วยให้การขับขี่ดียิ่งขึ้น

   MG F ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 ภายใต้ชายคาของ Rover Group (ที่อยู่ใต้ชายคาของ BMW อีกที) มากับดีไซน์ด้านหน้าที่ค่อนข้างสวยงามลงตัวใช้ได้ในยุคนั้น MG F ถือว่าเป็นหนึ่งในรถของ Rover Group ที่ได้รับความนิยมพอสมควร ขุมพลังมีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร K-Series พละกำลัง 112 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 187 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 9 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 177 กรัม/กม.
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series พละกำลัง 120 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 8.5 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 182 กรัม/กม.
 - เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series VVC พละกำลัง 144 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 209 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 7 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 184 กรัม/กม.
 - เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series VVC พละกำลัง 159 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 220 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 6.9 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 179 กรัม/กม. ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

   แต่ทว่าผู้ใช้รถรุ่นนี้ก็เจอปัญหาทางเทคนิคบริเวณปะเก็นฝาสูบในส่วนของระบบหล่อเย็น ซึ่งทาง Rover กลับไม่ใส่ใจปัญหาของลูกค้าดีเท่าที่ควร ลูกค้าต้องจ่ายค่าซ่อมในราคาที่แพงกับรถที่เพิ่งซื้อมาใช้ไม่นาน

   MG F เคยถูกนำเข้ามาขายในไทยโดยบริษัท Thai Ultimate Car ในเครือของ Thairung Union Car (ก็ที่เอากระบะ Revo มาดัดแปลงเป็น Transformer นี่ละครับ) ในราคาราวๆ 1.8 ล้านบาท ก่อนจะยุติการจำหน่ายไปในปี 2002

  MG F ได้รับการปรับโฉมครั้งแรกในปี 1999 มีการตกแต่งภายนอกและภายในรถใหม่ และออกแบบลายล้ออัลลอยใหม่ รวมทั้งมีการแนะนำเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมากับพละกำลัง 160 แรงม้า ในชื่อรุ่น "Trophy 160" ทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.9 วินาที และผลิตในจำนวนจำกัด

   นอกจากนี้ยังมีการแนะนำรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT ในชื่อ Steptronic และแม้จะมีคู่แข่งมากหน้าหลายตาอย่าง Mazda MX-5 , BMW Z3 หรือ Audi TT รถ MG F หรือในช่วงที่ Rover Group และ MG ถูกขายให้กับบริษัท Phoenix Consortium ด้วยมูลค่าแค่ 10 ปอนด์ ก็ยังคงทำยอดขายได้ดีพอสมควร

   ในปี 2002 MG ได้มีการเปิดตัว MG TF โดยตั้งชื่อตามรถคลาสิกอย่าง MG TG Midget ในยุค 1950s ตัวรถยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ MG F ว่ากันง่ายๆคือ MG TF ก็คือ MG F ที่ได้ทำการ Big Minor Change นั่นเอง การเปลี่ยนแปลงดีไซน์หลักๆจะอยู่บริเวณด้านหน้าที่มีการออกแบบใบหน้ารถใหม่ทั้งหมด รวมทั้งออกแบบฝาท้ายและกันชนท้ายใหม่ ปรับปรุงตัวถังให้มีความแข็งแรงขึ้น 20% ส่วนภายในมีการเปลี่ยนแปลงบางจุดและตกแต่งให้ดีขึ้น สิ่งที่น่าเสียดายในรุ่นนี้ก็คือ การยกเลิกการใช้ระบบกันสะเทือนแบบ Hydragas ที่เป็นจุดเด่นใน MG F แต่หันมาใช้ระบบกันสะเทือนแบบคอยล์สปริงแบบรถทั่วๆไป  ส่วนขุมพลังนั้นยังมีให้เลือก 4 แบบเช่นเคย ได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร K-Series พละกำลัง 116 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาทีทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 9.2 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 169 กรัม/กม.
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series พละกำลัง 120 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 9.7 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 199 กรัม/กม. รุ่นนี้จะเป็นรุ่นเดียวที่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT Stepspeed
 - เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series พละกำลัง 136 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 204 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 8.2 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 179 กรัม/กม.
 - เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร K-Series VVC พละกำลัง 159 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 220 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ในเวลา 6.9 วินาที ค่าการปล่อยไอเสีย 179 กรัม/กม. ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ยกเว้นรุ่นที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้)


   MG TF ยังคงมีผลตอบรับที่ค่อนข้างดีพอสมควร แต่ก็ยังมีปัญหาตัวรถมากวนใจผู้ใช้อยู่บ้าง ในปี 2005 นั้นมีการปรับปรุงอุปกรณ์โดยการเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ เช่น หลังคาผ้าใบด้านหลังเป็นกระจก จากเดิมที่เป็นพลาสติกใส และมาพร้อมกับฟังก์ชันปรับอุ่นเพื่อรองรับการขับขี่ในอากาศหนาวเย็น ตัวรถถูกผลิตจนถึงปี 2005 จนกระทั่ง MG Rover ตกอยู่ในสภาวะล้มละลาย ทำให้ MG TF ถูกระงับการผลิตไปในที่สุด

  แต่ทุกอย่างใช่ว่าจะจบง่ายๆ เมื่อแบรนด์ MG และ Rover ถูกปลูกชีพขึ้นมาอีกครั้งโดยบริษัทจีนรายใหญ่อย่าง Nanjing Automobile Group ซึ่งปัจจุบันถูกควบรวมไปกับกลุ่ม SAIC (Shanghai Automotive Industry Corporation) รถสปอร์ตอย่าง MG TF จึงถูกผลิตขึ้นอีกครั้งในโรงงานที่ Nanjing ที่มีกำลังการผลิตถึง 200,000 คัน/ปี ถึงกระนั้นก็ตามกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานใน Longbridge ของอังกฤษยังมีส่วนช่วยสร้างรถ MG TF ที่โรงงาน Nanjing ด้วย

  ในเดือนสิงหาคมปี 2008 รุ่นปรับปรุงใหม่อย่าง MG TF ที่ผลิตชิ้นส่วนที่จีนและนำมาประกอบในโรงงาน Longbridge ของอังกฤษแบบ CKD (Complete Knock Down) รถรุ่นพิเศษนี้ถือเป็นการร่วมมือของทั้งโรงงานจีนและอังกฤษ โดยมาในรุ่น "MG TF LE500" ถูกผลิตจำนวนจำกัด โดยมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนให้ดีขึ้น การตกแต่งภายนอกชวนให้นึกถึงต้นฉบับอย่าง MG F บริเวณกระจังหน้า  MG TF LE500 จะมีออปชั่นหลังคาแข็ง เบาะหนัง แผงกั้นลมด้านหลัง เครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 เซ็นเซอร์ถอยหลัง ล้ออัลลอย 11 ก้านสีพิเศษขนาด 16 นิ้ว และไฟตัดหมอกหน้า มีราคาค่าตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงอันน้อยนิดตั้งแต่ปี 1995 ซึ่่งส่งผลต่อยอดขายอย่างมาก

   นอกจาก LE500 นี้ยังมีรุ่นพิเศษอื่นๆ นั่นคือ MG TF 85th Anniversary ผลิตขึ้นเพื่อฉลอง 85 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ MG ในปี 2009 โดยจะมีการตกแต่งลายคาดสติ๊กเกอร์บริเวณตัวถัง สวมล้ออัลลอยลายเดียวกับ MG6 รมดำ ตกแต่งภายในให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม

   การผลิต MG TF นั้นถูกระงับอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคมปี 2009 เพราะมีความต้องการในตลาดต่ำรวมทั้งการเผชิญสภาวะถดถอย การผลิตกลับมาอีกครั้งในปีถัดไปและผลิตเรื่อยมาจนในท้ายที่่สุดก็ถูกยุติการผลิตในปี 2011 อันเนื่องมาจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและความต้องการซื้อที่ลดลง สรุปแล้วตลอดช่วงเวลาที่ MG ผลิตที่โรงงาน Longbridge แต่อยู่ภายใต้ชายคาเจ้าของจีนนั้นมี MG TF ผลิตออกมาทั้งหมด 906 คัน
   
   และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของการเดินทางอันยาวนานของสปอร์ตเปิดประทุนคันงามอย่าง MG F และ MG TF ซึ่งตลอด 16 ปีนั้นเจ้าสปอร์ตคันนี้ต้องฝ่าฟันและเผชิญหลายๆอย่าง จนท้ายสุดแล้วการเดินทางก็ต้องสิ้นสุดลง ส่วนตัวนั้นแล้วผู้เขียนเองก็แอบเสียดายไม่น้อย ยังแอบคิดอยู่ว่าถ้า MG ไม่ได้มีสถานการณ์แบบที่เป็นอยู่นี้ ถ้า MG ยังคงมีเจ้าของเป็นอังกฤษ และมีสถานการณ์ทางการเงินที่ดี เราอาจจะเห็นสปอร์ต MG รุ่นใหม่ๆมาโลดแล่นบนถนนแข่งกับคู่แข่งมากหน้าหลายตาก็เป็นได้

   ถึงกระนั้นก็ตามแม้ MG จะไม่ใช่ MG ที่เป็นหนุ่มเชื้ออังกฤษแท้ๆแบบเดิมแล้ว แต่กลายเป็นหนุ่มจีนที่เกิดในอังกฤษแทน ผมเชื่อว่าชาว We Love MG ก็ยังคงรักในความเป็นแบรนด์ MG เหมือนเดิม และปัจจุบัน MG ก็ยังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมาตอบโจทย์ลูกค้าหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน เอสยูวี หรืออะไรอื่นๆก็ตามแต่ ผมเองก็แอบหวังว่าในอนาคต MG ที่อยู่ภายใต้การดูแลของจีน อาจจะคิดคืนชีพสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูอีกครั้ง ก็ต้องปล่อยให้อนาคตเป็นเครื่องตัดสินใจ สุดท้ายนี้หวังว่าท่านผู้อ่านน่าจะสนุกไปกับตำนานของสปอร์ต MG ที่เราได้นำมาให้ท่านได้รับชมกัน ในคราวต่อไปนั้น We Love MG จะมีเรื่องสนุกเกี่ยวกับ MG คันใหม่มาให้อ่านกันอีก ต้องติดตามต่อไปครับ

ขอบคุณเนื้อหาจาก Wikipedia
- รูปภาพประกอบต้นแบบ MGFจาก aronline.co.uk
- ที่มาภาพ MGF Trophy 160 - http://www.mgtf.be/MD_Trophy160_01.html
- ที่มาภาพ MG TF 2002 https://www.autoevolution.com/cars/mg-tf-2002.html
- ที่มาภาพ MG TF 2005 http://www.mgtf.be/MD_MGTF_Mk2.html
- ที่มาภาพ MG TF LE500 http://www.carmagazine.co.uk/car-reviews/mg/mg-tf-le500-2008-review/
- ที่มาภาพ MG TF 85th Anniversary http://www.autocar.co.uk/car-review/mg/tf/first-drives/mg-tf-85th-anniversary




ติดตามข่าวสารรถยนต์ MG ทุกรุ่นได้ทางเพจนี้ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ส่องแผนการเปิดตัวรถ MG รุ่นใหม่ในประเทศจีน มาทั้ง MG3 Minorchange และ MG6 โฉมใหม่

MGB รถสปอร์ต2ประตูสุดคลาสสิค

ชม MG5 Hatchback อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้มีจำหน่ายในไทย