MG เจ้าตำนานมอเตอร์สปอร์ต

   

       การแข่งขันประลองความเร็วทุกรุ่นและทุกรูปแบบคือหัวใจของความสำเร็จของเอ็มจีอย่างต่อเนื่องเสมอมา ไม่เพียงแต่เท่านี้บริษัทเอ็มจี จัดให้มีแผนกจัดการแข่งขันของตนเองขึ้นมาเฉพาะเพื่อสนับสนุนและริเริ่มบุกเบิกรายการใหม่ๆ ในการแข่งขันต่างๆ และผู้ที่เป็นเจ้าของรถเอ็มจีซึ่งหลงใหลพลังความเร็ว ซึ่งมีหลายพันคนทั่วโลกต่างสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อชิงเข้าเส้นชัย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทางเรียบ การแข่งแรลลี่ ทั้งทางขึ้นเขาและทางวิบากเพื่อการทดสอบ ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เติมพลังแห่งความสำเร็จให้เอ็มจี

Eyston in EX120 at Montlhery
      การทุบสถิติครั้งแรกของเอ็มจี อีเอ็กซ์ 120 ซึ่งเป็นรถต้นแบบที่สร้างขึ้นเพื่อการแข่งขัน ถ่ายทอดตัวอย่างความสำเร็จจากรุ่น M ที่ได้ฝากผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่บรู๊คแลนด์ส (Brooklands) เมื่อนักแข่งรถ จอร์จ อีสตัน ได้ติดต่อ เซซิล คิมเบอร์เพื่อหารถที่สามารถวิ่งไปทดสอบความเร็วสูงสุดที่ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 750 ซีซี เจ้าอีเอ็กซ์ 120 จึงถูกเลือกมาในภารกิจนี้ หลังจากที่ทำฟาล์วที่จุดออกสตาร์ทสองสามครั้ง และมีการปรับจูนเครื่องพาวเวอร์พลัสซูเปอร์ชาร์จ (Powerplus Supercharge) อีสตันได้ทำลายสถิติความเร็วเหนือ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ที่มอนต์เลอฮ์รีย์เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1931 จากสถิติระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 103.13 ไมล์ต่อชั่วโมง และ 10 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 101.87 ไมล์ต่อชั่วโมง

EX181 at the salt flat with Stirling Moss 1957
      ในปี ค.ศ. 1957 ทีมงานได้ประสบภัยจากพายุที่รุนแรงทำให้ทุ่งราบดินเกลือถูกน้ำท่วม หลังจาก รอพายุผ่านพ้นไป แต่เกลือบนพื้นยังเปียกแฉะอยู่ มอสส์ได้รับเลือกให้ขับอีเอ็กซ์ 181 ในตอนบ่าย วันนั้น ขณะที่พระอาทิตย์ส่องแสงรอนๆ ใกล้มืดขึ้นทุกที มีอุปสรรคจากระบบเกียร์ให้ กังวลมากขึ้น แต่มอสส์ก็เอาชนะทุกอย่างด้วยผลงานที่น่าทึ่ง จากสถิติที่แทบจะบินได้ด้วย ความเร็วภาคพื้นดิน 245.64 ไมล์ต่อชั่วโมง         

Phil Hill after his successful run with EX181           
      ในวันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1959 อีเอ็กซ์ 181 ในมือของยอดนักขับรถอย่างฟิล ฮิล ชาวอเมริกัน ได้ทำสถิติใหม่ ถึง 6 รายการ และได้ความเร็วใหม่ ระยะทาง 1 กิโลเมตร์ ที่ 254.91 ไมล์ต่อชั่วโมง และระยะ 1 ไมล์ ที่ 254.53 ไมล์ต่อชั่วโมง ในสภาพอากาศที่เลวร้าย
          
Goldie Gardener in EX135
      เอ็กซ์ 1กลับมาในรูปร่างโฉมใหม่เส้นสายตัวถังออกแบบโดยรีด เรลตัน และตกไปอยู่ในมือสุดยอดฝีมือ โกล์ดี้ การ์ดเนอร์ ครั้งแรกที่ออกถนนบนทางด่วนที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ท ในประเทศเยอรมันนี การ์ดเนอร์เหยียบเจ้ารถคลาสจีคันนี้วิ่งฉิวไปแตะ 186.6 ไมล์ต่อชั่วโมง ในปีต่อมาเขาได้ทำลายสถิติ ที่สูงกว่า 200 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยบันทึกเวลาได้ที่ 203.5 ไมล์ต่อชั่วโมง บนทางตรงถนนซูเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นทางพิเศษเมืองเดส์โซ (Dessau)
     เป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้เอ็มจีได้รับการบันทึกลง ในการแข่งขัน Le Mans สามารถเอาชนะทีมเฟอร์รารี่ โดยทำความเร็วได้ถึง 105 กม./ชม. และยังคงตราตรึงในทุกสนามการแข่งขันรุ่นเครื่องยนต์เล็ก

 TC
     เป็นรุ่นแรกที่ออกจำหน่ายหลังสงครามโลก ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศในเครือจักรภพแต่กลับเป็นที่คลั่งไคล้ของชาวอเมริกัน สร้างยอดจำหน่ายกว่า 10,000 คัน/ปี ในสหรัฐอเมริกา
ในปี 1952-1962
MGA
     รถรุ่นนี้สร้างชื่อให้เอ็มจีเป็นที่รู้จักในฐานะ รถยนต์ที่ออกแบบรูปลักษณ์ได้ทันสมัย ด้วยโครงสร้างเหล็กทั้งคัน ทำยอดขายกว่า 100,000 คัน ตัวถังได้ต้นแบบจากการแข่งขัน Le Mans 24 hours


 ZB Magnette         
      Wolseley 4/44 เป็นรถต้นแบบของรถยนต์รุ่นนี้ กล่าวได้ว่าเป็นรุ่นที่ปฎิวัติวงการผลิตรถยนต์ จากการสร้างรถยนต์ด้วยชิ้นส่วนเล็ก ๆ กลายมาเป็นสายการผลิตด้วยการประกอบชิ้นส่วนขนาดใหญ่    

ในปี 1962-1980

MG Midget (MGC)

    รถสปอร์ตขนาด 2 ที่นั่ง ที่ครองใจผู้ขับขี่ด้วยความสวย แบบรถสปอร์ตรุ่นท็อปในราคาที่คนธรรมดาครอบครองได้ โมเดลแรกคือ MG Midget Mk I เครื่องยนต์ 950 ซี.ซี. (1961-1964) ตามมาด้วย MG Midget Mk II เครื่องยนต์ 1100 ซี.ซี. จนกระทั่งปี 1974 ก็ถึงเวลาของ MG Midget 1500 ที่เพิ่มความจุกระบอกสูบเป็น 1493 ซี.ซี. นับเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดสหรัฐอเมริกา

   MGB GT V8
      เครื่องยนต์ V8 โรเวอร์ (Rover) 3,258 ซี.ซี. แรงบิดสูงสุด 193 ฟุตปอนด์ ที่ความเร็ว 2,900 รอบ/นาที เป็นเครื่องยนต์ที่ผลิตจากโลหะอัลลอยด์ น้ำหนักเครื่องจึงเท่ากับ รุ่น Series B ทำให้กินน้ำมันน้อยลง และควบคุมเครื่องง่ายขึ้นกว่ารุ่น MG Midget
        

ในปี 1990-2009
MGF
    เปิดตัวเมื่อปี 1995 โดยวางตำแหน่งเครื่องยนต์ไว้ที่จุดกึ่งกลางตัวรถ ช่วยสร้างสมดุลอย่างยอดเยี่ยม จึงเป็นรุ่นที่ควบคุมได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบไฮดราก๊าซ (Hydragas) เพื่อเพิ่มคุณภาพการขับขี่


MG ZR          
  นี่คือรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดรุ่นหนึ่งในบรรดารถสปอร์ตแฮตช์แบคส์ 5 ประตู บนเกาะอังกฤษ สำหรับรุ่น CR 160 ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดนั้น ได้รับการขนานนามตามขนาดขุมกำลังของเครื่องยนต์ K Series 1.8 ลิตร

MG7
    ต้นแบบของรถรุ่นนี้ คือ รถคลาสสิค โรเวอร์ 75 ที่มอบความพอใจในการขับขี่ ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นกว่ารถในระดับเดียวกัน รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบอย่างประณีต ภายในตกแต่งให้คงกลิ่นอายตามแบบฉบับดั้งเดิมของรถที่ใช้ในเมือง   


  
 ขอบคุณข้อมูลจาก www.mgcars.com
                                             ติดตามข่าวสารรถยนต์ MG ทุกรุ่นได้ทางเพจนี้ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ส่องแผนการเปิดตัวรถ MG รุ่นใหม่ในประเทศจีน มาทั้ง MG3 Minorchange และ MG6 โฉมใหม่

MGB รถสปอร์ต2ประตูสุดคลาสสิค

ชม MG5 Hatchback อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้มีจำหน่ายในไทย