ยลโฉม MG GS Minorchange ที่ประเทศจีน

   ในตลาดไทยนั้น MG GS ยังคงรูปโฉมเดิมอยู่ หากยังจำกันได้เมื่อปลายปีที่แล้วที่ทาง MG Thailand ได้เพิ่มขุมพลังใหม่ 1.5 ลิตรเทอร์โบลงใน MG GS แต่เผอิญว่าตรงกับจังหวะที่เมืองจีนมีการปรับโฉม Minorchange พอดีเลย เล่นเอาสาวก MG เมืองไทยอาจจะสับสนมึนงงกัน

 ทาง We love MG จะพาทุกท่านมาชมรายละเอียดกันว่า MG GS Minorchange ที่วางขายในจีนตอนนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

  MG GS Minorchange มีสัดส่วนความยาวตัวรถ 4,510 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร และสูง 1,675-1,699 มิลลิเมตร มีความยาวฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร สรุปคือรถจะมีความยาวมากกว่ารุ่นเดิม 10 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกนั้นยังคงสัดส่วนเท่ากันอยู่ น้ำหนักตัวรถจะอยู่ระหว่าง 1,420-1,642 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร

  ด้านหน้ามีการออกแบบดีไซน์ใหม่ให้มีความดุดันและสปอร์ตมากขึ้น เห็นชัดว่ามีการออกแบบลวดลายกระจังหน้าใหม่พร้อมเสริมแถบโครเมี่ยมเข้าไปเพิ่มความหรูหรา กันชนหน้ามากับช่องระบายอากาศที่ขนาดใหญ่ขึ้นและยังเสริมด้วยแถบโครเมี่ยม ไฟ LED Daytime Running Lights ออกแบบใหม่ ส่วนด้านท้ายมีการออกแบบกันชนท้ายใหม่ให้ดูสปอร์ตมากขึ้นเช่นกัน ส่วนล้ออัลลอยยังคงใช้ลายเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

  ที่น่าสนใจก็คงจะเป็นภายในห้องโดยสารที่มีการออกแบบคอนโซลใหม่เกือบทั้งชุด ซึ่งมีความหรูหราน่าสัมผัสมากขึ้นกว่าเดิม มีการบุนุ่มและเดินด้ายตะเข็บจริงบนคอนโซล ภายในจะเห็นพวงมาลัยทรงใหม่เหมือน MG ZS ออกแบบรายละเอียดมาตรวัดใหม่ให้อ่านค่าง่ายมากขึ้น ออกแบบช่องแอร์ใหม่ มีการออกแบบการจัดวางปุ่มต่างๆกลางคอนโซลให้ดูสะอาดตากว่ารุ่นก่อนหน้า รู้สึกใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม มีการเพิ่มปุ่มสตาร์ทมาให้ และออกแบบฐานเกียร์ใหม่ หน้าจอสัมผัสสามารถรองรับระบบ InkaLink intelligent entertainment driving system ,  Apple CarPlay และ Baidu CarLife สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android และยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบนำทาง และอื่นๆอีกหลายประการ

  ขุมพลังของ MG GS ในตลาดจีนจะมี 2 แบบเหมือนกับในไทย
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ TGI มากับพละกำลัง 167 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 1,700-4,400 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.15 กม./ลิตร
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ TGI มากับพละกำลัง 218 แรงม้าที่ 5,000-5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 2,500-4,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 208 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12.05-12.65 กม./ลิตร
ระบบส่งกำลังในเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรจะมีให้เลือกตั้งแต่เกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ TST 7 สปีด ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรจะมีให้เลือกแค่และเกียร์อัตโนมัติ TST 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนทุกรุ่นจะใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกเว้น 2.0 ลิตรรุ่นท็อปสุดจะมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

  ระบบความปลอดภัยหลักๆของรถก็จะมีดังนี้ (ระบบไม่ได้มีทุกรุ่น)
- ระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและกันการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบลดความเสี่ยงในการพลิกคว่ำ ARP (Anti-Roll Control)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC (Hill Descent Control)
- ถุงลมนิรภัย 4-6 ใบ

  MG GS ในจีนมีรุ่นย่อยมากมายหลายรุ่น สำหรับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรจะแทนด้วยรหัส 20T ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรจะแทนด้วยรหัส 30T
- 20T City 6MT ราคา 98,800 หยวน หรือประมาณ 489,000 บาท
- 20T Elite 6MT ราคา 108,800 หยวน หรือประมาณ 538,000 บาท
- 20T Luxury 6MT ราคา 116,800 หยวน หรือประมาณ 578,000 บาท
- 20T Enjoy 6MT ราคา 123,800 หยวน หรือประมาณ 613,000 บาท
- 20T Luxury 7AT ราคา 128,800 หยวน หรือประมาณ 637,000 บาท
- 20T Enjoy 7AT ราคา 138,800 หยวน หรือประมาณ 687,000 บาท
- 30T Luxury 6AT ราคา 148,800 หยวน หรือประมาณ 736,000 บาท
- 30T Enjoy 6AT ราคา 168,800 หยวน หรือประมาณ 835,000 บาท

ที่มา SAIC MG / Autohome